กระจายบุญ เป็นบริการจัดส่งพวงหรีดเพื่อสังคมรายแรก โดยการนำรายได้ส่วนหนึ่งไปเปลี่ยนเป็นของกินของใช้ที่จำเป็น แล้วนำไปบริจาคให้กับองค์กรหรือหน่วยงาน ที่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส หรือขาดแคลน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์คนพิการ สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า สถานสงเคราะห์คนชรา และสถานสงเคราะห์สัตว์

พวงหรีดกระจายบุญ จึงเป็นพวงหรีดแนวคิดใหม่ที่สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งเป็นมากกว่าตัวแทนการแสดงความเคารพอาลัย ด้วยการเกื้อกูลเพื่อนร่วมสังคม เป็นกุศลแก่ทั้งผู้ให้และอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะวัสดุที่ใช้ทำพวงหรีดทำมาจากกระดาษที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ลดภาระการจัดการแก่วัดและเจ้าภาพ ไม่สร้างมลภาวะ ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

พวงหรีดกระจายบุญออกแบบเป็นภาพดอกไม้ 7 แบบ 7 สี โดยมีความหมายดังนี้

บุญชาด (สีแดง)

พวงหรีดที่แสดงถึงความรักที่จริงจังและยั่งยืน ผสมผสานด้วยบรรดาดอกกุหลาบโทนสีแดงนานาพันธุ์อันแสดงให้เห็นถึงความรักที่สุดแสนลึกซึ้ง มั่นคง และแน่นแฟ้น เรียกได้ว่าความรักนั้นจะไม่มีวันจืดจางไปจากหัวใจ

บุญนวล (สีเหลือง)

พวงหรีดที่หมายถึงพลังแห่งดวงจันทร์ที่มีอิทธิพลต่อความสงบ และการเป็นตัวแทนความรักที่มั่นคง ซื่อตรงและภักดี ดอกเยอบีร่าถูกนำมารายล้อมเข้ากับพืชพรรณต่างๆและผีเสื้อ เพิ่มความรู้สึกเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติเพื่อแสดงถึงการพักผ่อนตลอดกาล และรางวัลแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่

บุญชมพู (สีชมพู)

พวงหรีดที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ความเป็นอิสระแห่งความรัก และมิตรภาพที่เริ่มต้นด้วยสันติภาพของหัวใจ แวดล้อมด้วยดอกลิลลี่สีชมพูอันสื่อถึงความจริงใจที่มี สร้างความรู้สึกพลิ้วไหวด้วยช่อดอกไม้เล็ก ๆหลากหลายชนิดอันเป็นพลังแห่งความรัก และสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

บุญตอง (สีเขียว)

พวงหรีดที่เป็นตัวแทนของความหนักแน่น มั่นคงของจิตใจ ความเป็นอมตะ และมิตรภาพ แสดงความรู้สึกของความรักและอาลัยได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานานสักเท่าใด แต่ความรักก็ไม่เปลี่ยนแปลง ถ่ายทอดด้วยดอกแมกโนเลียสีขาวบริสุทธิ์และสีเขียวตามธรรมชาติที่หมายถึงความมีศักดิ์ศรี คุณค่า และน่าภาคภูมิใจ

บุญแสด (สีส้ม)

พวงหรีดที่ถ่ายทอดให้รับรู้ถึงความห่วงใย ความหวังดี และการเยียวยาความรู้สึก แสดงความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วยกันด้วยดอกกุหลาบสีส้มอันโดดเด่นวางสลับกับดอกเยอบีร่าสีเหลือง เพื่อบ่งบอกความในใจว่าเธอคือแสงอาทิตย์แห่งชีวิตฉัน

บุญคราม (สีฟ้า)

พวงหรีดที่เข้าถึงความรู้สึกสงบและนุ่มนวล สร้างความแปลกตาด้วยดอกกุหลาบสีฟ้าที่เชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงามและมั่นคงตลอดกาลสอดแทรกด้วยดอกไฮเดรเยียซึ่งหมายถึง “คำขอบคุณ” ดอกไม้เล็กๆ ที่แสดงคำขอบคุณที่ยิ่งใหญ่่

บุญม่วง (สีม่วง)

พวงหรีดที่บ่งบอกความอาลัยอาวรณ์ และแฝงไว้ด้วยพลังแห่งความล้ำลึก หมายรวมถึงดอกบัวอันเป็นตัวแทนของความสงบและบริสุทธิ์ใจ จึงเป็นการแสดงความศรัทธาและชื่นชม รายล้อมด้วยนกและผีเสื้อราวกับอยู่ในสวนแห่งจินตนาการ

พวงหรีดกระจายบุญ มีรูปแบบกรอบของป้ายชื่อทั้งหมด 4 แบบ โดยรูปแบบของป้ายชื่อจะแตกต่างกันตามราคาที่ลูกค้าต้องการซื้อพวงหรีดและของบริจาคที่แตกต่างกัน

จากแนวความคิดที่ว่าพวงหรีดควรจะสร้างคุณค่าเพิ่มในตัวเองและเป็นได้มากกว่าการแสดงความเคารพอาลัย จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของแนวความคิดที่มีต่อพวงหรีดแบบเดิมๆ ริเริ่มจากการนึกถึงวัสดุอื่นที่จะไม่สร้างขยะ และสามารถนำมาหมุนเวียนใช้ได้อีก กระดาษจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของแนวความคิดดังกล่าว และเมื่อต้องการพวงหรีดที่ทำจากกระดาษจึงเริ่มลองออกแบบโดยได้แนวความคิดจากงานกระดาษ Pop Up หรือการสร้างสรรค์กระดาษให้มีความเป็น 3 มิติให้มีความน่าสนใจ ทั้งยังมีโจทย์ที่ต้องคำนึงถึงที่สำคัญอีกข้อ นั่นคือ ต้องสามารถขนส่งง่ายและไม่เสียหายได้ง่ายโดยเป็นการจัดการอย่างมีคุณภาพ และรวดเร็ว นับตั้งแต่กระบวนการคิดและออกแบบรูปทรงของพวงหรีดโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด สามารถวางซ้อนกันได้ ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บและขนส่ง
ในขั้นแรกๆของการพัฒนางานพวงหรีดเริ่มต้นจากแนวทาง 3 แนวทาง คือ เทพนิยาย > โลกสวรรค์ > แนวจินตนาการอื่นๆ แต่สุดท้ายก็นึกถึง ความหมายพวงหรีดที่หมายถึงการจัดดอกไม้เพื่อแสดงความเคารพต่อเหล่าเทวดาที่มาร่วมในงานพิธีจึงได้ออกมาเป็นภาพของดอกไม้ต่างๆ ที่มาประกอบรวมกันอย่างลงตัวและยังคงความหวานอ่อนละมุน รวมถึงผู้ใช้ที่น่าจะเป็นคนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยและมีความคิดเป็นของตนเอง ที่สำคัญคือกลุ่มคนหรือองค์กรที่มองหาแนวทางอื่นหรือทางเลือกใหม่ในการมอบพวงหรีดที่สร้างความหมายที่ดีและยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ จึงเริ่มนำแนวทางแบบนามธรรม (Abstract) มาผสมผสานเข้ากับแนวย้อนยุค(Vintage) แต่ในการเริ่มต้นงานแนวใหม่ด้วยแนวทางแบบนามธรรม Abstract อาจจะดูล้ำสมัยเกินไปและอาจยังไม่สามารสร้างความเข้าใจในตอนเริ่มต้นได้ จึงเลือกแนวทางแบบย้อนยุคมาใช้ก่อนเพียงอย่างเดียวแล้วจบลงด้วยการสร้างสรรค์เป็นภาพดอกไม้ต่างๆ ที่สร้างความสุข สงบ ผสมกับนกและผีเสื้อ ส่วนตัวภาพดอกไม้ต้องการสร้างความพลิ้วไหว ดูสบายตา อ่อนละมุน จึงได้สร้างสรรค์ภาพดอกไม้รวมกับภาพธรรมชาติต่าง ๆ ด้วยเทคนิคสีน้ำอย่างลงตัว โดยได้รับเกียรติจากศิลปิน คุณวนนท์ รักศิริพงษ์ หรือ อ.กิ้ว ที่มากความสามารถและสร้างชื่อเสียงและผลงานทางด้านการวาดสีน้ำไว้ทั้งในประเทสและต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษที่สอนวิชาศิลปะและการออกแบบ ถึง 4 มหาวิทยาลัย และยังมีผลงานด้านการสร้างสรรค์งานวาดภาพประกอบที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ส่วนกระบวนการออกแบบ ได้จัดรูปแบบดอกไม้ให้แบ่งตามสีของวันทั้ง 7 วัน มีการจัดองค์ประกอบศิลป์โดยนักออกแบบที่มีการใช้ทั้งดอกที่สร้างจุดเด่นที่เป็นดอกขนาดใหญ่ ดอกที่เป็นดอกขนาดรองลงมาและดอกเล็ก ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน จัดองค์ประกอบให้แต่ละแบบประกอบด้วยดอกไม้ไม่เกิน 4 ชนิด และกลุ่มสีที่ใช้ก็มีการปรับโทนสีเป็นกลุ่มตามแนวสีที่ถูกกำหนดด้วยสีกรอบนอกสุดของตัวพวงหรีดที่เป็นตัวบ่งบอกแบบพวงหรีดทั้ง 7 แบบ 7 สี โดยอิงตามสีประจำวัน เพื่อง่ายต่อการสร้างการจดจำและความชัดเจน สิ่งที่เป็นอีกความท้าทายหนึ่งก็คือ เมื่อได้ทำการเสก็ตแบบ จัดวาง และออกแบบไว้อย่างลงตัวแล้วก็ต้องนำมาคิดต่อถึงการออกแบบให้สามารถผลิตได้ง่ายเพื่อสร้างมิติ ด้วยการเรียงเป็นชั้นๆ หรือทำให้เป็นเลเยอร์เพื่อให้เกิดมิติที่สมจริง จึงถือเป็นการออกแบบที่สร้างสรรค์และท้าทายความสามารถของนักออกแบบผู้ร่วมพัฒนาผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็คือ คุณภัทรา คุณวัฒน์ (คุณต่าย) ซึ่งระยะเวลาที่ได้ร่วมพัฒนาผลงานชิ้นนี้ใช้เวลา 1 ปีเต็ม ด้วยความพิถีพิถันบวกกับความสามารถในหลักการออกแบบที่เป็นโครงสร้างซับซ้อน และมีความชำนาญในการใช้วัสดุปะเภทกระดาษลูกฟูกและการพิมพ์ด้วยหมึกถั่วเหลือง จึงทำให้พวงหรีดกระจายบุญเป็นพวงหรีดที่มีคุณค่าสมบูรณ์ในตัวเองสมกับเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์งานพวงหรีดของกระจายบุญอย่างแท้จริง

ประวัติศิลปินผู้วาดดอกไม้สีน้ำให้กับพวงหรีดกระจายบุญ

คุณวนนท์เป็นคนชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านการ์ตูนและชอบวาดคาร์แรกเตอร์การ์ตูน ด้วยความชอบที่ชัดเจนจึงทำออกมาได้ดีจนเติบโตมาเป็นมืออาชีพด้วยความรักในศิลปะ

• สมัยมัธยมศึกษาปลาย ได้รางวัลที่ 1 การประกวดวาดเส้นระดับเขต เป็นตัวแทนของเขต 7 จากทั่วประเทศเข้าแข่งขันต่อในระดับมัธยมปลายของประเทศ
• สอบเข้าวิทยาลัยช่างศิลป์ ด้วยคะแนนวิชาวาดเส้น 100 คะแนนเต็มเพียงคนเดียวของรุ่น
• จบปริญญาตรี คณะจิตรกรรม สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าลาดกระบัง
• ศึกษาต่อปริญญาโท ที่ ม. ศิลปากร สาขาภาพพิมพ์ พร้อมกับทำงานศิลปะจากงานถ่ายภาพ งานภาพประกอบหนังสือ และงานออกแบบภาพประกอบต่างๆ
• เอาจารย์พิเศษสอนวิชาพื้นฐานออกแบบ คณะสถาปัตยกรรม มาทั้งหมดแล้วประมาณ 3 คณะ 8 มหาวิทยาลัย ที่เกี่ยวกับงานศิลปะและการออกแบบ
• ร่วมแสดงงานสีน้ำที่เมืองฟาบริโน ประเทศอิตาลี เพราะผลงานที่ออกแสดงผ่านสื่อโซเชียลทำให้เป็นที่รู้จักในวงการศิลปะต่างประเทศ
• วิทยากรหลักสอนการวาดเส้นและสีน้ำ Urban Sketch งาน Hoi An International Sketch Tour ประเทศเวียดนาม 2016 และ International Semarang Sketchwalk ประเทศ อินโดนีเซีย 2016
• พิธีกรสอนการวาดรูปในปี 2015-2016 ในงานสถาปนิกทักษิน จ.ภูเก็ต
• วิทยากรพิเศษ ม. ธรรมศาสตร์ จ. ลำปาง และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในกรุงเทพอีก 3-4 แห่ง

ตัดสินใจมาร่วมงานเป็นผู้วาดรูปดอกไม้ด้วยเทคนิคสีน้ำกับกระจายบุญ จากการชักชวนของ คุณภัทรา คุณวัฒน์ (คุณต่าย) ผู้ร่วมออกแบบและพัฒนาพวงหรีด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการร่วมงานวาดภาพบนเตาเผากับมูลนิธิแห่งหนึ่งที่ได้สร้างเตาเผา 2 ชิ้นความสูงประมาณ 2-3 เมตร สำหรับเผาศพไร้ญาติ ซึ่งภาพบนเตาเผานั้นก็ได้วาดเป็นภาพดอกไม้หลากหลายชนิด นกกระเรียน และสัตว์ต่างๆ เพื่อสื่อถึงการมอบสิ่งสวยงามรายรอบไว้ให้ในวาระสุดท้ายของชีวิตก่อนที่จะจากโลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง สร้างความรู้สึกที่ดี ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะนอกเหนือไปจากความสามารถที่มีในแนวทางที่ต่างออกไปตั้งแต่ครั้งนั้น เมื่อได้รับฟังเรื่องราวของกระจายบุญ จึงรู้สึกว่าเป็นคอนเซปต์ที่น่าสนใจที่คล้ายคลึงกับงานเตาเผา การได้วาดรูปดอกไม้บนพวงหรีดกระจายบุญก็เหมือนกับการได้ร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามให้แก่ผู้วายชนม์ เพื่อแสดงความเคารพอาลัยของผู้คนที่เคยมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันจนวาระสุดท้าย และเมื่อได้รู้ว่าการสร้างสรรค์ดอกไม้ครั้งนี้ยังเป็นการร่วมทำบุญด้วยการช่วยเหลือผู้คนในสังคมได้อีก ยิ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ในทันทีว่าต้องร่วมงานนี้อย่างแน่นอน จึงใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้เทคนิคและขั้นตอนในการวาดสีน้ำมาใช้ในการวาดดอกไม้ เพราะสีน้ำจะสามารถสร้างพื้นผิวที่พิเศษและสร้างเสน่ห์ได้ดีกว่าสีชนิดอื่น ทำให้การเขียนดอกไม้ด้วยสีน้ำเป็นการสร้างงานที่แตกต่างจากสีชนิดอื่น และด้วยการเขียนดอกไม้ต้องใช้ความประณีตในการสร้างสีสันในแต่ละกลีบ แต่ละต้น แต่ละดอก ทำให้ใช้เวลาพอสมควรในการวาด ต้องทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้ได้ภาพดอกไม้และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ลงตัวที่สุด เนื่องจากการวาดสีน้ำรูปดอกไม้เป็นงานที่ละเอียดอ่อน ท้าทายความสามารถของตัวเองมากกว่าการวาดในแนวอื่น ผลงานชุดนี้จึงเป็นผลงานชุดพิเศษที่บรรจงสร้างสรรค์จากประสบการณ์การทำงานมาทั้งชีวิต และหวังว่าผู้รับจะได้รับคุณค่าผ่านการทำงานศิลปะนี้ด้วยเช่นกัน

พวงหรีดกระจายบุญ ผลิตจากกระดาษกล่องนำมาประกบกับกระดาษลูกฟูกอีกทีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง เนื่องจากกระดาษลูกฟูกมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ในเรื่องของความทนทาน น้ำหนักเบา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

• กระดาษลูกฟูกถูกออกแบบมาให้สามารถมาเรียงซ้อนกันได้ สามารถทนต่อแรงกดทั้งด้านบน และด้านข้าง รวมถึงมีการทดสอบความสามารถในการทนต่อแรงดันทะลุ
• กระดาษลูกฟูกสามารถนำมาออกแบบได้หลากหลาย โดยสามารถตัดและพับเป็นขนาดและรูปแบบต่าง ๆ ได้มากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงสามารถนำมาพิมพ์ให้มีรูปแบบสีสันสวยงามด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยได้
• กระดาษลูกฟูกเป็นกระดาษที่มีความแข็งแรง และสามารถนำมาประกบเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกระดาษที่พิมพ์สำเร็จรูปแล้วได้เป็นอย่างดี
• กระดาษลูกฟูกได้ผ่านทดสอบแรงกระแทก ความทนทานต่อการตกจากที่สูง และความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และถือได้ว่าเป็นกระดาษที่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับระหว่างการขนย้ายสินค้า หรือการส่งสินค้า
• การผลิตกระดาษลูกฟูกไม่มีการใช้วัสดุมีพิษ หรือทำลายชั้นโอโซน
• มากกว่า 74% ของผลิตภัณฑ์จากกระดาษลูกฟูกจะถูกนำไปรีไซเคิล ทำให้กระดาษลูกฟูกนับว่าเป็นหนึ่งในกระดาษที่มีอัตราการถูกนำไปรีไซเคิลสูงที่สุด

• น้ำมันถั่วเหลืองที่นำมาใช้ไม่มีสารพิษและเป็นชนิดเดียวกับที่นำมาใช้ในการทำน้ำมันพืช เนย และสลัด
• หมึกพิมพ์ถั่วเหลืองสามารถใช้งานกับงานพิมพ์ระบบออฟเซตปกติได้ทุกชิ้นงาน น้ำมันถั่วเหลืองที่อยู่ในน้ำหมึกช่วยให้สารสีทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สีสันสดใส
• หมึกพิมพ์ที่ใช้น้ำมันถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบมีส่วนผสมของสารระเหยต่ำ (VOCs) ช่วยลดมลพิษทางอากาศที่สูดดมเข้าไปลดน้อยลง
• หมึกพิมพ์ถั่วเหลืองยังช่วยให้การนำกระดาษกลับมาใช้ใหม่ทำได้ง่ายขึ้นในกระบวนการแยกหมึกออกจากสิ่งพิมพ์

• พิถีพิถันกับหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ของสินค้า ที่หิ้วขายสินค้าในร้านค้านอกจากตัวสินค้าที่เราจะพิถีพิถันในการเลือกซื้อแล้ว ต่อไปนี้ขอให้เราพิถีพิถันอีกสักนิดถึงหีบห่อบรรจุภัณฑ์ ไม่ใช่ดูที่ว่าสวยงามอย่างเดียว แต่ให้พิจารณาว่ามันเป็นชนิดที่ใช้แล้วใช้อีกได้หรือไม่ มันเป็นชนิดเติม (refill)ได้หรือไม่ หรือมันเป็นชนิดที่นำไปหมุนเวียนผลิตซ้ำได้หรือไม่(recycle)
• เราควรเลือกสินค้าที่บรรจุอยู่ในหีบห่อที่ทำจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิล ได้เช่น กระดาษ กระดาษกล่อง แก้ว และอลูมิเนียม
• หลีกเลี่ยงสินค้าที่บรรจุในหีบห่อหลายๆชั้น มากเกินความจำเป็น เลือกสินค้าในหีบห่อที่มีจำนวนน้อยชิ้นมากที่สุด ซึ่งจะทำให้เราประหยัดเงินอีกด้วย
• หลีกเลี่ยงพลาสติก ถึงแม้พลาสติกจะสามารถนำไปรีไซเคิลได้ แต่มันก็มีจำกัดมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับแก้ว อลูมิเนียม และกระดาษกล่องควรหลีกเลี่ยงการใช้โฟม
• ไม่ซื้อสินค้าที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น มีดโกนหนวดพลาสติก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไฟแช็กพลาสติก กล้องถ่ายรูปสำเร็จ ถ้วยจานสำเร็จรูป สินค้าที่มีอายุใช้งานนานมากขึ้นเท่าใด ก็เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่านั้น
• ซื้อสินค้าปริมาณมากในหีบห่อขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะทำให้เราประหยัดเงินแล้วเราก็ยังช่วยลดจำนวนขยะที่เกิดจากหีบห่อที่บรรจุสินค้าในปริมาณน้อยหรือขนาดเล็กลงได้ โดยเฉพาะหีบห่อที่บรรจุสินค้าที่ใช้ครั้งเดียว
• เลือกซื้อสินค้าในภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่เติมได้(refill) ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าหลายชนิดที่บรรจุในขวดหรือภาชนะที่เติมได้ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาปรับนุ่ม เครื่องสำอาง เป็นต้น ด้วยวิธีการง่ายๆเหล่านี้ ก็สามารถช่วยลดการการคิดวิธีการรีไซเคิลขยะที่เกิดขึ้นภายหลัง มาช่วยกันกำจัดขยะก่อนที่จะเกิดขยะกันเถิด