ทำไมสังคมต้องมี...อาสาสมัครและจิตอาสา


ทำไมสังคมต้องมี...อาสาสมัครและจิตอาสา

 หลายคนคงเริ่มคุ้นชินกับคำว่า อาสาสมัคร (Volunteer) และจิตอาสา (Volunteer Spirit/Mind) กันมาบ้างแล้ว และหลายคนอาจจะสงสัยว่า

ทำไมต้องมี...อาสาสมัครและจิตอาสาด้วย แล้วคุณเคยอยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งบ้างมั้ย?

...บางคนพอเอ่ยคำว่าขออาสาสมัครและจิตอาสา...รีบโบกมือส่ายหน้าพร้อมบอกว่าไม่...ขออยู่เบื้องหลังดีกว่า!!!

 อาสาสมัครและจิตอาสาคืออะไร ทำไมกลัวกันล่ะ!...มาดูความหมายอย่างเป็นทางการกันดีกว่า

อาสาสมัคร (Volunteer) หมายถึง ผู้ที่สมัครใจ และอาสาเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ และทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน องค์กร และสังคม

โดยสมัครใจ เพื่อการดูแล ป้องกัน แก้ปัญหา เพื่อพัฒนาสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงินหรือสิ่งอื่นใด

ผลตอบแทนที่อาสาสมัครได้รับ คือ ความสุข ความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และสังคมโดยรวม ยกตัวอย่างเช่น

การอาสาเข้ามาทำงานในสมาคม องค์กรต่าง ๆ การอาสามาเป็นนายก เป็นคณะกรรมการ หรือผู้สนับสนุนในหน้าที่ต่าง ๆ ที่ตนถนัด เป็นต้น

 จิตอาสา (Volunteer Spirit/Mind) หมายถึง จิตแห่งการให้ความดีงามทั้งปวงแก่เพื่อนมนุษย์โดยเต็มใจ พร้อมจะเสียสละเวลา ให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือ ลงแรง ร่วมใจ

ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสังคม ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม ยกตัวอย่างเช่น

การช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ การแยกขยะ แม้แต่การประหยัดน้ำปะปาหรือไฟฟ้าที่เป็นของส่วนรวม

โดยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า หรือบางคนที่ลุกขึ้นมาทำความดีกันคนละนิด หรือใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มี เพื่อช่วยงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ

ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนหรือสังคมโดยรวม



 อีกความหมายของจิตอาสา จากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คือการรู้จักเอาใจใส่ เป็นธุระและเข้าร่วมในเรื่องของส่วนรวมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

มีความสำนึกและยึดมั่นในระบบคุณธรรม และจริยธรรมที่ดีงาม ละอายต่อสิ่งผิด รับผิดชอบ เน้นความเรียบร้อย ประหยัด สรุป จิตอาสา หรือ จิตสำนึกสาธารณะ

เป็นการตระหนักรู้ตัว หรือเป็นจิตส่วนที่รู้ตัว รู้ว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน เพื่ออะไร เป็นอย่างไรขณะที่ตื่นอยู่นั่นเอง เป็นจิตที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคม หรือความทุกข์ยากของผู้คน

และปรารถนาเข้าไปช่วย ไม่ใช่ด้วยการให้ทาน ให้เงิน แต่ด้วยการสละเวลา แรง และ/หรือ สมอง เข้าไปช่วย ด้วยจิตที่เป็นสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น

ไม่ใช่แค่ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนา ‘จิตวิญญาณ’ ของเราด้วย ฉะนั้น อาสาสมัคร ไม่ว่าจะทำด้วยแรงจูงใจใด ๆ ในช่วงเริ่มต้น

แต่หากขาดซึ่งความรักในสิ่งที่ทำด้วย “จิตอาสา” ผลงานที่ออกมาก็เป็นเพียงสิ่งที่เราทำสนุก ๆ เพื่อฆ่าเวลาที่ไม่รู้จะทำอะไรเท่านั้น

ไม่มีคุณค่าใดเพื่อสร้างจิตวิญญาณและพัฒนาจิตสำนึกเพื่อสังคม

 จากความหมายโดยรวมดูแล้วคนที่เข้ามาทำสิ่งเหล่านี้ได้ “ใจ” สำคัญมาก เคยได้อ่านเวลามีการโพสต์ถึงคนที่ทำความดีในสื่อโซเชี่ยล

รู้สึกดีทุกครั้ง เช่น...หัวใจนายหล่อมาก...เธอคือนางฟ้าของเด็กๆ...ขอกราบหัวใจงามๆ...สังคมต้องการคนแบบนี้....อีกหลายๆวลีที่มีให้เห็น

แอบชื่นชมและเป็นปลื้มแทนเขาเหล่านั้นเสมอ



สังคมไทยต้องการอาสาสมัครและจิตอาสา เพื่อมาช่วยจรรโลงให้สังคมนี้น่าอยู่...หากทุกคนคิดว่าเมื่อเข้ามาเป็นอาสาสมัครและจิตอาสาแล้วจะเป็นการเปลืองตัว

เพราะมีสิทธิ์ถูกวิพากวิจารณ์ ถูกด่า ถ้าคิดแบบนี้บ้านเมือง และสังคมไทยเราจะดีขึ้นได้อย่างไร...อย่ามองดูอย่างห่างๆแบบห่วงๆ

วันนี้เพียงแค่เราแต่ละคนคิด และทำความดีกันคนละนิดละหน่อยเพื่อสังคม สังคมไทยจะมีแต่ความสุขใจ...แล้วเราจะได้รู้ว่า

ทำไมสังคมต้องมี...อาสาสมัครและจิตอาสา

#ติดตามเรื่องราวดีๆของพวงหรีดกระจายบุญ ต่อยอดการอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา กับ โครงการ "อ่าน...สร้างชาติ"

#"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"

#กระจายบุญ...เริ่มต้นที่เราให้ สังคมได้ไม่สิ้นสุด

#กระจายบุญ...พวงหรีดเพื่อสังคม...อุทิศให้ผู้วายชนม์

#กระจายบุญ...บุญที่จับต้องได้

#กระจายบุญ...ให้ได้มากกว่าที่คิด...อุทิศแด่ผู้ที่จากไป

  • share :
พร้อมบริการส่งรูปภาพยืนยัน เมื่อพวงหรีดจัดส่งเรียบร้อยแล้ว
สั่งพวงหรีดทางเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ไม่รับ” ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิต เนื่องจากเหตุผลด้านการดำเนินงานจัดซื้อของบริจาค