ความสุขอยู่ที่ “ใจ”
ความสุขอยูที่ “ใจ”
ด้วยความวุ่นวายของสังคมปัจจุบัน ทำให้เราต้องพบเจอผู้คนและเหตุการณ์ต่าง ๆ
ไม่ซ้ำแต่ละวัน หากเราไม่ปรับตัวเพื่อให้สามารถมีชีวิตมีความสุข สิ่งที่เราได้อาจจะมีแต่ความทุกข์ตามมา
อะไรล่ะที่จะนำเราไปสู่ความสุขได้ ลองมาฝึกตัวเองให้ทำสิ่งเหล่านี้ดู
“นิ่งให้เป็น” คือการพูดให้น้อย ฟังให้มาก มีหลายคนเคยบอกมาแบบนี้ ทำไมคนที่นิ่งมักเป็นคนที่ได้เปรียน
บางคนบอกว่า “นิ่ง สยบความเคลื่อนไหว” จริงมั้ยต้องถามตัวเราเอง ทำไมคนพูดมากมักจะเสียเปรียบ
พูดมากย่อมพลาด ภาษิตจีนเตือนไว้ว่า คิดสามตลบจึงดำเนิน ตรองสามรอบจึงเปิดปาก...มีข้อคิดเตือนใจว่า
“ทำงานกับคนหมู่มาก ต้องนิ่งให้เป็น ต้องเย็นให้พอ”
ลองนำไปปรับใช้กับชีวิตดูเพื่อชีวิตที่ดีของตัวเราเอง
“เรียบง่าย” หมายถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย พอเพียงในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร
ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรือไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ครอบครัว และสังคมส่วนรวม บางท่านอาจจะคิดว่านี่มันคือการปริกวิเวกหรือเปล่า
หากเรามองในมุมที่ดี นับเป็นการสร้างมุมมองชีวิตของเราที่จะเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้ต่อไป
“อดทนต่อสิ่งเร้า” ในสังคมปัจจุบันเราต้องเผชิญความไม่เป็นธรรมจากเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว หากเราไม่คิดโกรธเกรี้ยว
มองเรื่องราวเหล่านั้นอย่างว่ามันคือส่วนประกอบหนึ่งของการดำเนินชีวิต หากเร่าคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่เข้ามาทำให้ชีวิตเราต้องเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี
การโกรธมากทำให้เราเสียสุขภาพ และไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ ฉะนั้นการอดทนสิ่งเร้าต่าง ๆ
มีความใจกว้างที่จะทนกับสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้ และมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หรือสามารถปล่อยวางต่อเหตุการณ์เหล่านั้นได้เชื่อคุณจะมีสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอน
“ยอมเพื่อสิ่งที่ดี” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการให้ยอมทุกเรื่องจนตัวเองเสียเปรียบ และถูกมองว่าเป็นคนที่แพ้ในสายตาของคนรอบข้าง
แต่ให้คิดในมุมของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สามารถทำงานต่อไปได้ การถอยกลับมมามองผลดีของการกระทำของตัวเราและคนอื่น
ย่อมมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน...เคยได้ยินได้ฟังจากผู้รู้ว่า..
“พยายามฟังความเห็นคนสิ่งใดทำตามความเห็นคนอื่นได้ ไม่ดึงดันความเห็นตน ถอยหนึ่งก้าว ฟ้ากว้างทางไกล”
“มองโลกในแง่ดี” หมายถึงการใช้ชีวิตอย่างปกติ ในแบบฉบับของตัวเอง ไม่กังวลเรื่องใด ๆ มองโลกและมองคนอื่นในแง่ดีเสมอๆ
ถามว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะโดยธรรมชาติของคนเราชอบมองคนอื่น โดยผ่านจิตใจของเราออกไป เมื่อจิตใจของเราสะอาด
เราก็จะเห็นแต่ความดีงามรอบ ๆ ตัว แต่ถ้าจิตใจของเราสกปรก เราก็จะเห็นแต่ความสกปรกรอบตัว การที่เราเห็นแต่ความไม่ดีรอบ ๆ
ตัวเรา เราต้องเข้าใจว่า แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เราเห็น มันเกิดขึ้นในจิตใจของเรา เราจึงต้องหาทางฝึกจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์...ดังนั้น
ถ้าเราเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี จิตใจก็ไม่สงบ เราก็จะกลุ้มอกกลุ้มใจ มีความทุกข์ แต่ถ้าเราหัดมองในแง่ดี เราก็จะคิดแต่สิ่งที่ดี จิตใจก็จะเบิกบาน และมีความสุข...
ข้อคิดในการทำชีวิตให้มีความสุขไม่มีอะไรยาก ใจเราเองสำคัญที่สุด ใจเราเป็นยังไงเราก็มองเห็นภายนอกอย่างนั้น
ฝึกทำใจให้สะอาดเพื่อการมองโลกในแง่ดี และสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันให้เกิดกับตัวเองและสังคม
จะพบว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตทำได้ไม่ยาก...ความสุขอยู่ที่ “ใจ”
#"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"
#กระจายบุญ...เริ่มต้นที่เราให้ สังคมได้ไม่สิ้นสุด
#กระจายบุญ...พวงหรีดเพื่อสังคม...อุทิศให้ผู้วายชนม์
#กระจายบุญ...บุญที่จับต้องได้
#กระจายบุญ...ให้ได้มากกว่าที่คิด...อุทิศแด่ผู้ที่จากไป