หลายคนคงเคยได้ยินงานวิจัยที่บอกว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยอ่านหนังสือวันละ 2 บรรทัด ต่อคน

มันเป็นค่าเฉลี่ยที่ดูน้อยมากจนน่าใจหาย และถึงแม้ว่าจะมีสถิติใหม่ว่าการอ่านหนังสือของคนไทยได้ขยับขึ้นเป็น 4 เล่ม / ปี

ก็ยังดูเหมือนว่าหนังสือยังไม่ใช่คำตอบของสุดท้ายของคนไทยกับคำถามที่ว่า...ทำไมต้องอ่านหนังสือ? อ่านหนังสือแล้วได้อะไร?

"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"

 เชื่อว่าหลายคนยังให้ความสำคัญเรื่องการอ่านหนังสือน้อยมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนได้ใช้ประโยชน์จากการอ่านจนประสบความสำเร็จในชีวิต

วันนี้ทำอย่างไรจึงจะให้การอ่านหนังสือของคนไทยเพิ่มขึ้น...สิ่งสำคัญที่สุดต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน เมื่อตัวเราสามารถสร้างนิสัยรักการอ่านได้

จะนำไปสู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญาได้อย่างแน่นอน เพราะการที่เราเริ่มต้น คนรอบข้าง คนใกล้ตัวจะซึมซับได้ถึงประโยชน์ที่ได้รับ

ครอบครัวที่เลี้ยงลูกด้วยการใช้หนังสือที่เหมาะกับวัยของลูก อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เล็ก เป็นการปลูกฝังให้ลูกๆรักการอ่านโดยไม่รู้ตัว 

รู้สึกแปลกใจมั้ยว่าทำมั้ยคนทั่วโลกให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือ ต่างให้ข้อสรุปเหมือนๆกันว่า การอ่านหนังสือจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง

ช่วยพัฒนาเรื่องการจำ รวมถึงชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญ

และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น หนังสือบางประเภทช่วยให้เราสามารถฝึกฝนทักษะในการคิดเชิงวิเคราะห์ได้

ทำให้มีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งผลจากการอ่านนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปของสังคมโลก

การอ่านช่วยอะไรบ้าง...ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองได้จริงหรือ?

สมองของคนต้องการการออกกำลังเพื่อให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีอยู่เสมอเช่นเดียวกับร่างกาย การอ่านหนังสือเป็นเหมือนกับการออกกำลังสมอง

ทำให้สมองของเราได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การกระตุ้นการทำงานของสมองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอ

และป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และช่วยพัฒนาเรื่องการจดจำได้ ยิ่งอ่านหนังสือมาก สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจดจำก็จะได้ทำงานมากขึ้น

การอ่านทำให้ได้ความรู้ในเรื่องที่อ่านและเกิดความเพลิดเพลิน

 การอ่านทำให้เราได้มีความรู้ในสิ่งที่เราอ่านเพิ่มขึ้นเลื่อนๆ ตามหัวข้อทีเราอ่าน อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากอ่านมากเราก็จะรู้มากนั้นเอง

นอกจากนี้การอ่านยังทำให้เกิดความบันเทิง เช่น การอ่านการ์ตูน อ่านนิยาย หรือแม้แต่การอ่านข่าวต่างๆที่ตัวเราชอบก็สามารถทำให้เกิดความบันเทิงได้เป็นอย่างดี

การอ่านช่วยให้เราได้รับคำตอบในสิ่งที่อยากรู้จริงหรือ?

 การเรียนหรือแม้แต่การทำงานบางอย่าง หากเราไม่มีข้อมูลอะไรในสมอง ก็คงจะทำให้เราไม่สามารถผ่านในวิชานั้นๆ

หรือในโปรเจ็คงานที่ต้องหาคำตอบที่ถูกต้องมาประกอบได้ เครื่องมือที่จะช่วยเราได้ก็ต้องเกิดจากการอ่านเพื่อหาคำตอบ

เป็นการค้นคว้า หาข้อมูลในสิ่งที่เราต้องการจะรู้ได้

ในยามที่อารมณ์ของเราว้าวุ่นการอ่านช่วยให้เกิดสมาธิอย่างไร? 

 เชื่อว่าถ้าตัวเราได้เริ่มต้นอ่าน ได้นั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ สิ่งหนึ่งที่ได้รับคือความสงบของจิตใจ

เพราะเนื้อห้าในบางตอนทำให้ตัวเราได้มองเห็นภาพ เมื่อเราเกิดจินตนาการ เราก็จะมีสมาธิจดจำเรื่องราวดีๆ

มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในบางครั้งอาจทำให้เราได้รับคำพูด สามารถร้อยเรียงเป็นประโยคที่สวยงาม หรือมี

รูปแบบการพูดที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาทักษะการสนทนาหรือการสื่อสารของเราให้ดีขึ้นได้

การอ่านช่วยความเครียดลดลงและจิตใจสงบมากขึ้นหรือไม่?

 จากการที่ได้พูดคุยกับคนที่รักการอ่าน มักจะได้ตำตอบคล้ายกันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณนั่งนิ่งนานๆ อยู่กับการอ่านหนังสือดีๆ

ที่คุณชอบสักเล่ม มักจะทำให้โลกทั้งใบมีแต่นายคนเดียว อารมณ์ที่ร้อนลุ่ม ความเครียดจากงาน จากการเรียนหรือเครียดปัญหาส่วนตัว

จะถูกลืมไปทันที สิ่งที่จะได้รับคือคุณจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมหัศจรรย์

"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"...วันนี้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำงานลองหยิบหนังสือมาอ่านหนังสือ สัก 15 – 20 นาที

ฝึกแบบนี้ทุกวัน คุณจะพบว่ามันสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น และจะส่งผลให้การทำงานของคุณก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆ

ได้อย่างไม่น่าเชื่อ...ลองดูนะ หรือจะชวนเพื่อนๆ มาร่วมวงอ่านด้วยยิ่งดี!

#ติดตามเรื่องราวดีๆของพวงหรีดกระจายบุญ  ต่อยอดการอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา กับ โครงการ "อ่าน...สร้างชาติ"

#"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"

#กระจายบุญ...เริ่มต้นที่เราให้ สังคมได้ไม่สิ้นสุด

#กระจายบุญ...พวงหรีดเพื่อสังคม...อุทิศให้ผู้วายชนม์

#กระจายบุญ...บุญที่จับต้องได้

#กระจายบุญ...ให้ได้มากกว่าที่คิด...อุทิศแด่ผู้ที่จากไป