กำลังใจจากใครหนอที่ทำให้สุขใจ
กำลังใจจากใครหนอที่ทำให้สุขใจ
ทำไมหลายต่อหลายคนมองหากำลังใจจากคนรอบข้าง กำลังใจสร้างเองได้มั้ย คำตอบคือได้หรือไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง
เช่นเดียวกับการที่ได้อ่าน ได้ฟังเรื่องราวดี ๆ จากผู้คนที่เป็นนักคิด นักสร้างแรงบันดาลใจ
ยังเป็นพลังทำให้เราสามารถก้าวเดินไปสู่เส้นทางที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ คำพูดอะไรบ้างที่ทำให้คนเราเกิดพลัง
เกิดกำลังใจก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง มีข้อคิดหลายอย่างจากประโยคบอกเล่าเหล่านี้
มาดูว่าคุณคือคนหนึ่งมั้ยที่ต้องการพลังและกำลังใจจากคำพูดเหล่านี้
เคยมีคนบอกเรามั้ยว่า ตลอดทั้งวันที่เราโมโหใครต่อใครมา ก่อนนอนให้เวลาตัวเองสักสิบห้านาที ลองนั่งนิ่งๆทบทวนดูว่า
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้มีอยู่อีกสักกี่วัน ทำไมต้องไปเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีเหตุผลอะไรที่เราต้องไปมีอารมณ์โมโหคนเหล่านั้น
ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เกิดเป็นเพียงบททดสอบจิตใจให้เราเข้มแข็ง ให้เราแข็งแกร่ง คืนนี้เราคงหลับฝันดี ตื่นมาเราจะไม่เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกแย่ๆ นั้นเลย
หลายต่อหลายครั้งมักจะได้ยินว่า “ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหากลองดูดีๆจะพบว่า มีแต่ ถูกใจ หรือ ไม่ถูกใจ ”
หากทำถูกใจยังไงเขาก็มองว่าไม่ผิด แต่หากเราทำให้เขาไม่ถูกใจต่อให้ทำถูกแค่ไหนก็โดนมองว่าผิด เพราะฉะนั้นอย่าไปเก็บเอามาคิด
อย่าได้แคร์คนเหล่านั้น เพราะในโลกนี้ไม่มีใครเอาใจใครหรือทำให้ถูกใจใครได้ทุกคน
หากเราตั้งมั่นว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นเรื่องที่ดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเบียดเบียนใครก็ให้ทำต่อไป
เมื่อใดที่กลัดกลุ้มใจ ลองสุดลมหายใจลึกๆ แหงนหน้ามองบนฟ้า แล้วหลับตา นับหนึ่งถึงสิบลืมตาแล้วยิ้มให้กับฟ้า
แล้วคิดดูว่าชีวิตนี้มันมีแต่ลดลงทุกวินาที ให้บอกกับตัวเองว่าอย่าเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ดีที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เพราะหากเราเสียเวลาย้ำคิดย้ำทำ เราจะเดินต่อไปข้างหน้าไม่ได้
ลองทำตามคำพูดนี้ดู...เมื่อใดที่ถูกเอาเปรียบ ลองปล่อยวางดูบ้าง พูดมากจะเสียมิตร คิดเล็กคิดน้อยเสียเวลา
ซื่อสัตย์ไว้เวลาไปไหนจะได้ไม่มีใครพูดลับหลังในทางที่ไม่ดี พาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศคนที่คิดบวก และคนที่ประสบความสำเร็จ ชีวิตจะพบแต่สิ่งที่ดี เพียงแค่นี้ก็เพียงพอให้เราสุขใจได้แล้ว
เรื่องหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา มันก็แค่กระทบเรา ชั่วครู่ ชั่วคราว เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไป ทุกข์เข้ามา เดี๋ยวก็ผ่านไป สุขเข้ามา เดี๋ยวก็ผ่านไป
หรือแม้แต่การได้พบหน้ากันในวันนี้ ถือเป็นความโชคดี หมายความว่า หากใครที่เคยโกรธเกลียดกัน คิดว่าชาตินี้จะไม่ญาติดีกันอีกแล้ว
เมื่ออายุมากขึ้นลองทบทวนกับตัวเองว่าทำไมถึงคิดเช่นนั้น หากกล้าที่จะเปลี่ยนความคิดหันมาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ชีวิตที่เหลือจะได้มีเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคน
เชื่อว่าในชีวิตของคนทุกคน ต้องเคยเจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีทั้งดีและร้าย เมื่อใดที่ใครบางคนทำให้เราเสียใจ ลองปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น
ทบทวนดูว่าชีวิตนี้ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน คนที่มีชื่อเสียง คนที่รวยล้นฟ้า หรือ คนที่รักกัน
สุดท้ายก็แค่คนที่เคยมาเยือนโลกใบนี้เท่านั้น ทุกอย่างมีเกิด ตั้งอยู่ และดับไปตามวาระกรรมของแต่ละคน
เราอาจจะไม่ใช่คนที่รวยล้นฟ้าเหมือนเศรษฐีมีเงิน แต่เราสามารถมีความสุขอันเรียบง่ายในแบบที่เราเป็น
ชีวิตของเราอาจจะเป็นที่อิจฉาของเศรษฐีอีกหลายคนก็เป็นได้ หรือเพียงแค่มีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่มีความสุข
มีสุขภาพที่แข็งแรงมากกว่าคนที่นอนป่วยอยู่ตามโรงพยาบาล หรือแม้แต่ความสุขง่ายๆที่เรามองข้าม วันนี้ยังกินข้าวได้ ยังนอนหลับสบาย
มีบ้านให้หลบฝนหลบแดด มีเสื้อผ้าให้สวมใส่ ไปเที่ยวได้ มีคนรักอยู่ข้างกาย ยังได้ดูหนังฟังเพลง แค่นี้ก็ถือว่าโชคดีกว่าใคร ๆ อีกหลายคนแล้ว
ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้แสดงธรรมไว้ว่า ถ้าพูดว่า “ตัวกู-ของกู” เพียงเท่านี้ ให้รู้เถอะว่า มันมีความยึดมั่นถือมั่นเป็นกิเลสเดือดจัด อย่างหนึ่งอย่างใดอยู่”
...ฉะนั้นเมื่อใดที่เรารู้สึกโดนแย่งอะไรไป ให้ลองไตร่ตรองดู ไม่มีใครครอบครองสิ่งใดในโลกนี้ได้ตลอดไป
และ ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งใดแท้จริง แม้แต่ร่างกายเราก็ยังต้องคืนสู่ธรรมชาติ...ทั้งหมดนี้คือคำกล่าวที่ให้กำลังใจ
ไม่ว่ากำลังใจนั้นจะมาจากใคร ถ้าเราพร้อมยอมรับก็ทำให้เราสุขใจตลอดไป
#"เริ่มต้นที่เราอ่าน...สู่การอ่านเพื่อสังคมอุดมปัญญา"
#กระจายบุญ...เริ่มต้นที่เราให้ สังคมได้ไม่สิ้นสุด
#กระจายบุญ...พวงหรีดเพื่อสังคม...อุทิศให้ผู้วายชนม์
#กระจายบุญ...บุญที่จับต้องได้
#กระจายบุญ...ให้ได้มากกว่าที่คิด...อุทิศแด่ผู้ที่จากไป